"LPP" กางแผน 3 ปี ปักรายได้ 2,545 ลบ. เตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์
21 มี.ค. 67
LPP เผยแผนปี’67 ตั้งเป้ารายได้รวม 1,880 ล้านบาท เติบโต 20% พร้อมกางแผน 3 ปี บริหารโครงการรวม 350 โครงการ ปักหมุดรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 2,545 ล้านบาท เตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ยื่นไฟลิ่งเมษายนนี้
นางสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเม้นท์ จำกัด หรือ LPP ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,562 ล้านบาท เทียบจากปี 2565 ที่มีรายได้ 1,167 ล้านบาท กำไรสุทธิ 139 ล้านบาท โตขึ้น 34% จากปี 2565
โดยกำไรส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบริหารจัดการชุมชน ประมาณ 100 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 มีโครงการที่ดูแลทั้งสิ้น 261 โครงการ มีลูกบ้านกว่า 400,000 ราย
บนพื้นที่ 11 ล้าน ตร.ม.
โดยสัดส่วนรายได้ ปี 2566 แบ่งเป็น 65% มาจากบริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) 20% มาจากบริษัท แอล พี เอส โปรเจค
มาเนจเมนท์ จำกัด (LPS) และ 15% มาจากบริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด (LSS)
นางสมศรีกล่าวว่า หลังจากที่ บริษัท LPN ปรับโครงสร้างใหม่ ด้วยการแต่งตั้งนายอภิชาติ เกษมกุลศิริ ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทนนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ที่เกษียณอายุ โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยมองว่าที่มา LPP มีการแยกการบริหารงานอย่างชัดเจน และในช่วงปีที่ผ่านมาได้มีการเตรียมแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยคาดว่าจะยื่นคำขอเพื่อเสนอขาย (Filing) ได้ในเดือนเมษายน 2567 นี้ และมีแผนกระจายหุ้นเฉลี่ย 25-30%
นอกจากนี้บริษัทได้ขยายขอบเขตงานบริหารชุมชน และสร้าง Synergy ของงานบริการด้วยการเข้าลงทุนในโครงการ U-Center 1และ2 จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เพื่อปรับปรุงอาคารหอพัก บริหารจัดการหอพักและการปล่อยเช่า ด้วยงบลงทุนตลอดระยะสัญญา 150 ล้านบาท ในการปรับปรุงอาคารและตกแต่งห้องพัก โดยมีสัญญาบริหารโครงการถึงเดือนพฤษภาคม 2574 ซึ่งบริษัทฯจะขยายโมเดลดังกล่าวไปสู่หอพักอื่น ๆ ด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับมหาวิทยาลัยของภาครัฐอีก 2 แห่ง
จากการทำงานร่วมกันกับภาครัฐบาลด้วยการเข้าลงทุนเพื่อปรับปรุงอาคารหอพักนักศึกษา นางสมศรีเปิดเผยถึงข้อแตกต่างในกระบวนการทำงานระหว่าง
ภาครัฐและเอกชนว่า เนื่องจากโครงการ U-Center ไม่ใช่นิติบุคคลอาคารชุด โดยนิยามของนิติบุคคลอาคารชุดความหมายคือมีความเป็นเจ้าของมากกว่าหนึ่ง แต่โครงการดังกล่าว จุฬาฯ เป็นเจ้าของและเป็นรูปแบบหอพัก ต้องไปอิงกับ พ.ร.บ.หอพัก ซึ่งก็จะมีข้อกำหนดบางอย่างที่เราจะต้องควบคุมให้ได้ตามนั้น ถ้าเป็นอาคารชุดเราจะยื่นข้อเสนอกับคณะกรรมการของบริษัทนั้น ๆ แต่สำหรับหอพักเราจะยื่นข้อเสนอกับเจ้าของหอพักโดยตรง
นอกจากนี้บริษัทได้จับโอกาสธุรกิจใหม่ บริหารงานขายและการตลาดแบบครบวงจร (Sole Agent) ประเดิมโครงการแรก MIDTOWN เพชรเกษม-สาทร ในรูปแบบทาวน์โฮม 3 และ 4 ชั้น จำนวน 49 ยูนิต ซึ่งจะเข้าไปบริหารตั้งแต่ไตรมาส 4/2567
สำหรับแผนการดำเนินงานระยะเวลา 3 ปี (2567-2569) จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีโครงการที่จะเข้าบริหารรวมทั้งสิ้น 350 โครงการ จากปัจจุบัน
มีโครงการที่รับบริหารอยู่ 261 โครงการ มีลูกบ้านกว่า 400,000 ราย บนพื้นที่กว่า 11 ล้านตารางเมตร หรือมีโครงการใหม่ปีละ 20-30 โครงการ โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการของบริษัทแม่ อย่าง LPN 60% และจากโครงการจากเอกชนรายอื่น 40% ที่แบ่งเป็นจากนิติบุคคลต่าง ๆ 50% และรับบริหารจากผู้ประกอบการอสังหาฯ 50% อาทิ บริษัท บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน) หรือ ANAN, บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เป็นต้น
สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 1,880 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 20% และสามารถสร้างรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 2,545 ล้านบาท ภายในปี 2569 และ
คาดรับบริหารโครงการเพิ่ม 20-30 โครงการ ดันบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 2567 เพื่อเปิดรับโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มโอกาสการเติบโต วางแผนขยายรับงานบริหารจัดการไปยังจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นโดยเน้นจังหวัดที่บริษัท LPN ได้เข้าไปลงทุน และพัฒนาโครงการไปแล้ว เช่น ชลบุรี อุดรธานี หัวหิน เป็นต้น
“บริษัทต้องการที่จะพัฒนาและเติบโตขยายธุรกิจต่อไป และเรามีบริการที่ครบวงจร มีเรื่องของบริหารชุมชน ฝากขาย-เช่า และเรื่องของความปลอดภัย ตอนนี้
เรามีศูนย์ Emergency ที่ตึกลุมพินี สามารถเชื่อมกับทุกโครงการที่เราบริหารหากเกิดเหตุฉุกเฉินเราสามารถเข้าไปซัพพอร์ตได้ทันที 24 ชม. เรามี iso ถือเป็นมาตรฐานสากล และใส่ใจเรื่อง well-being ใส่ใจในเรื่องของผู้พักอาศัยและพนักงาน และมีอะคาเดมี่ซึ่งพัฒนาในเรื่องขององค์ความรู้ของพนักงาน” นางสมศรีกล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบันบริษัทมีการให้บริการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.LPP Property ธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรอาคารและชุมชน บริหารชุมชนบริหารทรัพยากรอาคารนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจแพลตฟอร์ม
2.LPS Project Management ธุรกิจบริการวิศวกรรมและที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ บริการวิศวกรรม ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์บริหารโครงการและ ควบคุมงานก่อสร้าง
3.LSS Security Solutions ธุรกิจบริการรักษาความปลอดภัยและความสะอาด